ทีมชาติ อังกฤษ เต็งแชมป์ของศึก ยูโร 2024 ลงทำศึก นัดที่สองของรอบแบ่งกลุ่ม เจอกับทีม เดนมาร์ก โดยในเกมนี้ถ้า อังกฤษ ชนะได้นั้น จะเข้าสู่รอบต่อไปในทันที ส่วนทาง เดนมาร์ก หลังจากเกมแรกพลาดท่าเสมอมานั้น เกมนี้เลยต้องหวังที่จะคว้าชัยชนะให้ได้ เพื่อที่จะได้เพิ่มโอกาสในการเข้ารอบต่อไปให้ได้มากขึ้นกว่าเดิม แต่ อังกฤษ กลับทำได้เพียงแค่เสมอกันไป 1-1 เท่านั้น แบ่งกันไปทีมละแต้ม

อังกฤษ สุดบู่ได้แค่เสมอ เดนมาร์ก 1-1

ทีมชาติขวัญใจคนไทย อังกฤษ ลงสนามเกมนี้เจอกับ เดนมาร์ก ซึ่งในนัดแรก อังกฤษ เอาชนะ เซอร์เบีย มาได้ 1-0 ด้วยรูปแบบเกมที่ไม่ได้น่าประทับใจอะไรเลย มาเจตอกับ เดนมาร์ก ที่นัดแกรเสมอกับ สโลเวเนีย มา 1-1 ทำให้เกมนี้ เดนมาร์ก หวังชัยในเกมนี้ ซึ่งทั้งสองทีมนั้นก็ขนเอาผู้เล่นที่ดีและพร้อมที่สุดลงสนามกันอย่างครบครันเลย

ทาง แกเร็ธ เซาธ์เกต กุนซือยอดอัจฉริยะของ ทัพ สิงโตคำราม ใช้ทาง แฮร์รี่ เคน เล่นกองหน้าตัวเป้า มีทาง จู๊ดเบลลิ่งแฮม,ฟิล โฟเด้น,บูกาโย่ ซาก้า ลงเล่นอยุ่ด้านหลัง ส่วนมิดฟิลด์ใช้ทาง ดีแคลน ไรซ์ ลงเล่นคู่กับทาง เทรนท์ อาร์โนลด์ ส่วนแบ๊กซ้ายที่คาดว่าจะใช้ ลุค ชอว์ นั้นก็ยังคงเป็นทาง คีแรน ทริปเปีย เหมือนเดิม ส่วนทาง เดนมาร์ก ใส่ทาง โยนาส วิม กับ ราสมุด ฮอยลุนด์ เล่นหน้าคู่ ให้ทาง คริสเตียน อีริคเซ่น ตัวเก๋าเป็นคนออกบอล ใช้ ปิแอร์ เอมิล ฮอยเบียร์ก เล่นตัวรับ

ซึ่งเริ่มเกมมาก็เป็นทาง อังกฤษ ที่ครองบอลบุกใส่ก่อนเลย โดนใช้ทาง บูกาโย่ ซาก้า นั้นเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันคอยจู่โจมทางด้านแบ็กขวาของทาง เดนมาร์ก อยู่ตลอด จนกระทั่งในนาทีที่ 18 วิงแบ็กซ้ายของทาง เดนมาร์ก อย่างทาง วิคเตอร์ คริสเตียนเซ่น ไปประมาท โดนทาง ไคลด์ วอล์คเกอร์ ชิงบอลไปได้ ก่อนพาเข้าเขตโทษ ปาดเรียดไปแฉลบกองหลัง เดนมาร์ก เข้าทาง แฮร์รี่ เคน ยิงด้วยซ้ายโล่งๆ พาทีมออกนำ 1-0

จากนั้น เดนมาร์ก ก็เริ่มเล่นสมฉายา เดนิช ไดนาไมต์ โดยเดินเข้าเพรสซิ่งแล้วใส่ผู้เล่น อังกฤษ ทันที หวังที่จะเอาบอลมาครองให้ได้บ้าง ซึ่งจากการเพรสซิ่งเองนั้น ก็ทำให้มาได้ประตูตีเสมอ เมื่อ แฮร์รี่ เคน ลงไปรับบอลทุ่มจากเพื่อนในแดนตัวเอง แต่ดันทะลึ่งบ้อง จ่ายบอลขวางสนาม มาเข้าทาง วิเตอร์ คริสเตียนเซ่น จ่ายต่อให้ทาง เมอร์เทน ยูมานด์ จังบอลหนึ่งที ก่อนที่จะกดด้วยขวาบอลพุ่งเรียดเสียบเสาเข้าไป ให้ เดนมาร์ก ตีเสมอ 1-1 ซึ่งก็จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

มาในครึ่งหลังนั้น พ่อยอดกุนซือของ อังกฤษ ก็เริ่มแก้ไขแดนกลาง เปลี่ยนทาง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ลงมาเล่นแทน เทรนด์ อาโนลด์ แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้มันดีขึ้นเลย ทั้งๆที่ก็มีทาง ค็อบบี้ ไมนู เจ้าหนูดาวรุ่งที่แสดงให้เห็นแล้วว่าเล่นได้อยู่ข้างสนามแท้ๆ แถมในนาทีที่ 69 ก็เปลี่ยนแนวรุกยกชุด ยกเว้นทาง จู๊ด เบลลิ่งแฮม คนเดียวออกไป ส่งทาง จาร็อด โบเว่น,โอเล่ วัตกิ้นส์,ไมเคิ่ล โอลิเซ่ ลงมาแทน แต่ไม่ใช่ทาง โคล พาลเมอร์ กับทาง แอนโธนี่ กอร์ดอน ที่สามารถเล่นได้ลงมาเช่นกัน

เกมนั้นก็ยังทรงเดิมไม่เปลี่ยน อังกฤษ พยายามครองบอลบุก แต่ เดนมาร์ก ก็เข้าถึงตัวเร็วตลอด ทั้งสองทีมนั้นจึงไม่ค่อยมีโอกาสในการยิงประตูมากนัก จบเกมจึงเสมอกันไป 1-1 จึงทำให้ อังกฤษ นั้นมี 4 คะแนน จาก 2 นัด ส่วน เดนมาร์ก นั้นมี 2 คะแนน จาก 2 นัด โดยนัดสุดท้าย อังกฤษ จะเจอกับ สโลเวเนีย ซึ่งต้องการผลเสมอเป็นอย่างน้อย เพราะถ้าหากแพ้ขึ้นมาจะเป็นเรื่องใหญ่ ส่วนทาง เดนมาร์ก จะเจอกับ เซอร์เบีย ที่ไม่ว่ายังไงก้ต้องเก็บสามคะแนนให้ได้เท่านั้น

กูรู เฉ่งกันยับ เซาธ์เกต โคตรป๊อด

เรียกว่าจากผลงานเมื่อคืนนี้บรรดา กูรูและคอมเมนเตอตเอร์ มากมาย ต่างก็ออกมาวิจารณ์ทาง แกเร็ธ เซาธ์เกต นายใหญ่ทัพ ทรี ไลออนส์ กันเละเลย เนื่องจากว่ากุนซือรายนี้ดันทุรังมากเกินไป โดยการจับเอาทาง เทรนท์ อาร์โนลด์ มาเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ แทนที่จะส่งมิดฟิลด์ธรรมชาติลงไปช่วยงาน ดีแคลน ไรซ์ อีกทั้งยังบอกด้วยว่าเล่นในแผนที่ขรี้กลัวเกินไป

อังกฤษ ชุดนี้มีทั้งทาง โคล พาลเมอร์ รองดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก แอนโธนี่ กอร์ดอน ปีกซ้ายความเร็วสูงจาก นิวคาสเซิ่ล อีกทั้งยังมี ค็อบบี้ ไมนู ดาวรุ่งที่เล่นดีเกินวัย อยู่ในทีม แต่ เซาธ์เกต กลับไปม่เลือกใช้งานเลย ซึ่งล่าสุดจากการให้สัมภาษณ์ของทาง เซาธ์เกต บอกว่า ทีมนั้นไม่มีนักเตะที่เหมือนกับทาง คาลวิน ฟิลลิปส์ เลยทำให้ทีมนั้นไม่มีสมดุล ซึ่งทำให้กูรูบอกว่า อังกฤษ ไม่มี เซาธ์เกต ยังจะดีกว่า

จากนี้ไปก็ต้องจับตาดูกันว่าทาง เซาธ์เกต จะแก้ปัญหาที่ทีมนั้นมีอยู่อย่างไร จะดันทุรังส่งทาง เทรนต์ อาร์โนลด์ ลงตัวจริงอีกหรือไม่ โดยติดตามไดจากทางบท วิเคราะห์บอล จากทางเว็บ ดูหนังดูบอล.com ได้ทุกวัน