ลิเวอร์พูลทำผลงานสุดยอดในนัดที่สองของรอบรองชนะเลิศ คาราบาว คัพ ด้วยการเอาชนะ ดูไฮไลท์ฟุตบอล ลิเวอร์พูล 4-0 สเปอร์ส ที่สนามแอนฟิลด์ การแข่งขันครั้งนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและการเล่นที่เฉียบขาดจากทีมเจ้าบ้าน เกมเริ่มต้นด้วยความดุดันจากลิเวอร์พูล ซึ่งสามารถทำประตูแรกได้จากโคดี้ กักโปในช่วงครึ่งแรก ตามมาด้วยประตูของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่โชว์ฟอร์มเด่นอีกครั้งในครึ่งหลัง การจบสกอร์ของโซบอสไลและฟาน ไดจ์คช่วยเพิ่มความมั่นใจและปิดฉากเกมได้อย่างสวยงาม
ดูไฮไลท์ฟุตบอล ลิเวอร์พูล 4-0 สเปอร์ส รอบรองชนะเลิศ EFL
ลิเวอร์พูลสร้างค่ำคืนที่น่าจดจำอีกครั้งในศึกคาราบาว คัพ หลังจากตามหลัง 1-0 ในนัดแรกของรอบรองชนะเลิศ แต่พวกเขาก็พลิกสถานการณ์ได้อย่างยอดเยี่ยมในเกมที่สองที่แอนฟิลด์ ด้วยชัยชนะ 4-1 จากสองนัดรวมกัน ฝั่งของสเปอร์สกลับไม่สามารถตอบโต้ได้เลย โดยไม่มีการยิงตรงกรอบแม้แต่ครั้งเดียว ลิเวอร์พูลควบคุมเกมได้ทั้งหมดและแสดงให้เห็นถึงพลังและความมุ่งมั่นที่จะเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูลได้ตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศที่สนามเวมบลีย์ ซึ่งพวกเขาจะพบกับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดในวันที่ 16 มีนาคม ลูกทีมของอาร์เน่ สล็อตมีเป้าหมายชัดเจนที่จะป้องกันแชมป์ให้ได้อีกครั้งในฤดูกาลนี้
เปิดเกมดุเดือด! ลิเวอร์พูลปะทะสเปอร์สในค่ำคืนแอนฟิลด์
แอนฟิลด์ในค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยบรรยากาศที่ร้อนแรง เมื่อสองทีมยักษ์ใหญ่อย่างลิเวอร์พูลและท็อตแนม ฮอทสเปอร์เริ่มต้นเกมด้วยจังหวะการเล่นที่ดุเดือดและเร้าใจตั้งแต่นาทีแรก ทว่าความเข้มข้นของเกมกลับไม่ได้สร้างโอกาสที่ชัดเจนมากนักในช่วง 20 นาทีแรก หนึ่งในไฮไลต์ของช่วงต้นเกมคือจังหวะยิงของโมฮาเหม็ด ซาลาห์ที่เบี่ยงทางไปเล็กน้อย แต่แอนโทนิน คินสกี้ นายทวารของสเปอร์สก็ยังรับบอลไว้ได้อย่างสบาย ๆ อย่างไรก็ตาม ดาร์วิน นูเนซเกือบพังประตูได้จากจังหวะโหม่งที่ทดสอบการเซฟของคินสกี้ และโดมินิก โซบอสซไลมีโอกาสจบสกอร์ในสถานการณ์ตัวต่อตัว แต่กลับถูกตัดสินให้เป็นลูกล้ำหน้า
ซาลาห์-กั๊กโป ประสานงานสุดเฉียบ พาหงส์แดงขึ้นนำก่อน
ในเกมที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดที่สนามแอนฟิลด์อย่างที่เห็นใน ลิงค์ดูบอลออนไลน์ ลิเวอร์พูลสามารถปลดล็อกความกดดันได้ในนาทีที่ 34 ซาลาห์ได้บอลทางกราบขวา ก่อนโชว์ความแม่นยำด้วยการเปิดบอลพุ่งตรงไปยังปีกซ้ายอย่างกั๊กโพ ผู้ซึ่งโชว์การควบคุมบอลที่น่าทึ่งด้วยเข่าก่อนยิงเต็มข้อ บอลพุ่งทะลุผ่านมือของแอนโทนิน คินสกี้ เข้าตาข่ายไปอย่างสวยงาม ท่ามกลางเสียงเฮของแฟนบอลเจ้าถิ่น ประตูนี้ทำให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0 และกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในเกม ลิเวอร์พูลเริ่มเล่นได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ในขณะที่ท็อตแนม ฮอทสเปอร์ ต้องเร่งปรับเกมเพื่อหาทางกลับเข้าสู่การแข่งขัน
คูลูเซฟสกี้ ยิงไกลพลาดเป้าและ ริชาร์ลิซอน เจ็บก่อนจบครึ่งแรก
ท็อตแนม ฮอทสเปอร์พยายามตอบโต้เกมรุกของลิเวอร์พูลในครึ่งแรก และเกือบสร้างโอกาสสำคัญจากลูกยิงไกลของเดยัน คูลูเซฟสกี้ที่ตัดสินใจลองเสี่ยงจากระยะ 25 หลา ทว่าลูกยิงดังกล่าวพุ่งข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย สถานการณ์ยิ่งแย่ลงสำหรับทีมเยือนเมื่อใกล้หมดครึ่งแรก ริชาร์ลิซอน ศูนย์หน้าชาวบราซิลที่เป็นกำลังสำคัญในเกมนี้ ต้องเดินออกจากสนามด้วยอาการบาดเจ็บ หลังพยายามฝืนเล่นต่อแต่ไม่สามารถทำได้ นี่ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับสเปอร์ส แต่ในขณะเดียวกันก็เปิดโอกาสให้มาธีส เทเล นักเตะใหม่ที่เพิ่งเซ็นสัญญามาในเดือนมกราคม ได้ลงสนามเป็นตัวจริงครั้งแรก
ซาลาห์ ซัดจุดโทษสุดเฉียบ ลิเวอร์พูลนำห่างในครึ่งหลัง
หลังเริ่มครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลยังคงครองเกมได้อย่างต่อเนื่องและกดดันแนวรับของท็อตแนม ฮอทสเปอร์อย่างต่อเนื่อง เพียงห้านาทีหลังเริ่มเล่นใหม่ ดาร์วิน นูเญซถูกแอนโทนิน คินสกี้ทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่ลังเลที่จะเป่าให้เป็นจุดโทษ โมฮาเหม็ด ซาลาห์รับหน้าที่สังหารจุดโทษอย่างเยือกเย็น บอลพุ่งแรงและแม่นยำเข้าสามเหลี่ยมมุมบน ทำให้ผู้รักษาประตูทีมเยือนไม่มีโอกาสเซฟ นี่เป็นประตูที่ช่วยให้ลิเวอร์พูลนำห่างและควบคุมสถานการณ์ได้อย่างมั่นใจ
แบรดลีย์แอสซิสต์ โซบอสซ์ไล ซัดให้นำห่าง สร้างเสียงเฮที่ฝั่ง The Kop
หลังเกมดำเนินไปด้วยความกดดันและความพยายามที่ไม่มีหยุดหย่อน ในที่สุดลิเวอร์พูลก็ทิ้งห่างได้สำเร็จในช่วงเวลาสำคัญของเกม คอร์เนอร์ แบรดลีย์ พุ่งทะลุขึ้นมาในพื้นที่ตรงกลางอย่างยอดเยี่ยม ก่อนจ่ายบอลให้โดมินิก โซบอสซไล ซึ่งไม่ลังเลที่จะซัดบอลผ่านมือผู้รักษาประตูเข้าสู่ตาข่ายฝั่ง The Kop ประตูนี้ไม่เพียงสร้างเสียงเฮลั่นในสนามแอนฟิลด์ แต่ยังเพิ่มความมั่นใจให้กับทีมเจ้าถิ่น ขณะที่ท็อตแนม ฮอทสเปอร์พยายามตอบโต้ทันที ซน ฮึงมิน สร้างจังหวะหวาดเสียวด้วยการยิงจากมุมแคบ บอลพุ่งไปชนคานอย่างจัง ทำให้แฟนบอลทีมเยือนถึงกับเสียดาย
ในช่วงเวลาที่ลิเวอร์พูลต้องการความเด็ดขาดที่สุด เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กลายเป็นฮีโร่ของทีมอีกครั้งด้วยการทำประตูสำคัญจากลูกเตะมุมในช่วงท้ายเกม ลูกโหม่งอันทรงพลังของเขาพุ่งผ่านแนวรับและผู้รักษาประตูเข้าไปอย่างสมบูรณ์แบบ ประตูนี้ไม่เพียงช่วยให้ลิเวอร์พูลคว้าชัยชนะในเกมที่สำคัญ แต่ยังเป็นการย้ำเตือนถึงความสามารถของฟาน ไดค์ในการสร้างความแตกต่างในจังหวะสำคัญ โดยเฉพาะเมื่อฤดูกาลที่แล้วที่เขาเคยทำประตูในลักษณะนี้เพื่อช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ ชัยชนะครั้งนี้ส่งให้ลิเวอร์พูลผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศที่สนามเวมบลีย์ ซึ่งพวกเขาจะพบกับนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทีมที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในฤดูกาลนี้ การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่กำลังจะมาถึงจะเป็นศึกแห่งเกียรติยศที่แฟนบอลทั่วโลกตั้งตารอ
อ่านบทความวิเคราะห์และไฮไลท์บอลที่น่าสนใจคู่อื่นๆ